
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
ฝ่ายขาย
เกี่ยวกับเรา
บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) และบริษัทในเครือหรือบริษัทในกลุ่มบริษัท (“กลุ่มบริษัท”) (เรียกรวมกันว่า “เรา” “พวกเรา” “ของเรา”) ตระหนักถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบของเรา เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (“การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะจัดการให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)
วัตถุประสงค์
นโยบายฉบับนี้มีจุดประสงค์ที่จะแจ้งให้ท่านเกี่ยวข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เรานำมาประมวลผลขณะที่ท่านทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของเรา และในบางกรณี รวมไปถึงเมื่อสัญญาของท่านกับเราได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ซึ่งในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผย
(รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) นี้ เราทำหน้าที่ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเรามีหน้าที่ตามกฎหมายในการแจ้งให้ท่านทราบ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวท่านที่เราเก็บรวบรวม รวมถึงวัตุประสงค์และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ แจ้งให้ท่านทราบว่าท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไรตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ เราจะระบุไว้ในนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล และขอให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจ ทั้งนี้ เราจะประกาศนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้รวมถึงหากมีการเปลี่ยนแปลง ไว้ใน agency web
นิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น รวมถึงข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายลำดับรองที่อาศัยอำนาจพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการตราขึ้น และตามที่มีการแก้ไขเป็นครั้งคราว
เราเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (ประมวลผล) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
1) เป็นส่วนทั่วไปของสัญญาฝ่ายขาย
2) เป็นส่วนประกอบการคำนวณจ่ายผลตอบแทนให้ท่านได้และจ่ายภาษีท่านได้อย่างถูกต้อง
3) ประกอบการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน
4) เป็นส่วนหนึ่งของการอบรมและพัฒนาฝ่ายขาย
5) เป็นส่วนประกอบการในคำนวณผลประโยชน์อื่นใดและกิจกรรมการขาย
6) เมื่อเราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับท่าน
7) เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา
1) เป็นส่วนทั่วไปของสัญญาฝ่ายขาย
เมื่อท่านสมัครหรือร่วมเป็นฝ่ายขายของเรา ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่เรา รวมถึง ชื่อ สกุล ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ วันเดือนปีเกิด การศึกษา ประวัติการทำงาน และเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน เช่น ชื่อบัญชีธนาคาร เลขบัญชีธนาคาร สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เป็นต้น ข้อมูลในใบสมัคร และ ข้อมูลใด ๆ ที่ท่านให้ไว้เพื่อสมัครงานและตลอดระยะเวลาตามสัญญา หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่เรา เราจะไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้
ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นในการทำสัญญาและการรักษาสถานภาพสัญญาฝ่ายขายระหว่างท่านกับเรา และจะช่วยให้ท่านเข้าร่วมกิจกรรมการขายต่างๆที่เราจัดขึ้นเพื่อให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา
ในบางสถานการณ์ เราอาจต้องทำการตรวจสอบสถานภาพหรือประวัติของท่านตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ประวัติอาชญากรรม ประวัติทางคดีความ การฉ้อฉลหรือข้ออันควรสงสัยเพื่อให้มั่นใจว่าท่านมีคุณสมบัติครบถ้วนตามตำแหน่งที่ว่าจ้าง
ในช่วงระหว่างที่ท่านมีสัญญากับเรา เราอาจจะมีการเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านเพิ่มเติมเพื่อให้เราสามารถปฏิบัติหน้าที่ของเราได้ตามสัญญาหรือตามที่กฎหมายกำหนดในด้านต่าง ๆ เช่น ข้อมูลการจ่ายผลประโยชน์ การทำส่งเสริมการขาย การจัดกิจกรรมแข่งขันหรือรางวัลต่าง ๆ รวมถึง เพื่อให้บริการท่านตามที่ท่านร้องขอ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลทางการเงินและสุขภาพของท่าน
2) เป็นส่วนประกอบการคำนวณจ่ายผลตอบแทนให้ท่านได้และจ่ายภาษีท่านได้อย่างถูกต้อง
เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามสัญญาและหน้าที่ของเราตามกฎหมายเกี่ยวกับสรรพากร เราอาจจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น รายได้ เงื่อนไขการจ่าย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี รายได้ที่ผ่านมา รวมถึง ข้อมูลต่าง ๆที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ตอบแทนที่เราจ่ายให้กับท่าน
ซึ่งหากเราไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนี้ เราจะไม่สามารถคำนวณจ่ายผลประโยชน์ให้ท่านได้
3) ประกอบการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ในช่วงระหว่างที่ท่านมีสัญญากับเรา เราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน และในบางสถานการณ์ ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราจะประมวลผลนั้นจะเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของท่าน บทลงโทษที่ท่านได้รับ หรือการตักเตือนต่าง ๆ ทั้งนี้ เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านี้โดยอาศัยฐานประโยชน์อันชอบธรรมของเรา ในการกำกับดูแลคุณภาพการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานที่กำหนดในอันที่จะสนับสนุนแนวทางการประกอบธุรกิจของบริษัท
4) เป็นส่วนหนึ่งของการอบรมและพัฒนาฝ่ายขาย
เพื่อให้เราสามารถดำเนินกิจกรรม ให้ความรู้ อบรมและพัฒนาท่าน รวมถึง การเข้ารับใบอนุญาตทางธุรกิจต่าง ๆ เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการการประมวลผลในกิจกรรมอบรมและพัฒนา และจะเก็บบันทึกหลักสูตรการอบรมต่าง ๆที่ท่านเข้าร่วมและการเรียนรู้ต่าง ๆที่ท่านได้มีโอกาสเข้าร่วม รวมถึงลักษณะของกิจกรรมและวันที่ที่ท่านเข้าร่วม ทั้งนี้ เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านี้โดยอาศัยฐานประโยชน์อันชอบธรรม เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่กฎหมายกำหนด และประเมินความเพียงพอของการจัดอบรมและให้ความรู้แก่ท่านอันจะเสริมสร้างความรู้และศักยภาพของท่านและรักษาคุณสมบัติของท่านให้ครบถ้วนในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาให้เรา
5) เป็นส่วนประกอบการในคำนวณผลประโยชน์อื่นใดและกิจกรรมการขาย
เพื่อให้เราสามารถจัดหาผลประโยชน์อื่น ๆและกิจกรรมการขายให้กับท่านอย่างเหมาะสม รวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียง การจัดรางวัลฝ่ายขายประจำปี การจัดกิจกรรมท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดหรือเข้าร่วมประกวดเกี่ยวกับการขายที่เรา หรือ กลุ่มบริษัท หรือ บุคคลภายนอก หรือ ในธุรกิจจัดขึ้น ซึ่งในการเข้าร่วมนั้น เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการประมวลผล รวมทั้ง บันทึกผลประโยชน์ที่ท่านได้รับและกิจกรรมที่ท่านเข้าร่วม รวมถึงลักษณะกิจกรรมและวันที่เข้าร่วม โดยอาศัยฐานประโยชน์อันชอบธรรมของเรา ที่มุ่งความพึงใจของท่านและเพื่อสนับสนุนการเป็นบริษัทที่ดีของเรา
6) เมื่อเราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับท่าน
ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากการตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เป็นสาธารณะ แหล่งข้อมูลส่วนตัว หรือแหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล (data providers) ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่น สมาคมหรือสมาพันธ์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประวัติการทำงานของท่าน การร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของท่าน ที่ท่านซื้อหรือใช้ (“แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอก”)
ทั้งนี้ เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายและเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการกำกับดูแลในประการอื่น ๆ ตลอดจนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
7) เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา
ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบุคคลอื่น (หรือหลายบุคคล) หรือ ให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้สมัครฝ่ายขายที่ท่านสรรหามาเพื่อทำงานให้หรือทำสัญญาฝ่ายขายกับเรา หรือ บุคคลอ้างอิง) ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายฉบับนี้
ตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาต ท่านตกลงเพิ่มเติมที่จะดำเนินการให้เราได้รับการชดใช้อย่างเต็มที่ ต่อความเสียหาย ความสูญเสีย การลงโทษ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินคดี ไม่ว่าในประการใด ๆ ซึ่งรวมถึงค่าปรับ เบี้ยปรับ ดอกเบี้ย เงินเพิ่ม หรือเงินอื่น ๆ ที่เรียกเก็บ เรียกปรับ หรือเก็บโดยหน่วยงานกำกับดูแลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจออกกฎระเบียบ อันเกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำหรือการละเว้นไม่กระทำของท่าน (หรือของเจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้ให้คำปรึกษา ตัวแทน หรือผู้แทนของท่าน) ไม่ว่าจงใจหรือความประมาทเลินเล่อของท่านในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้น หรือที่ส่งผลให้เราถูกกล่าวหาหรือลงโทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายที่ใช้บังคับ
บุคคลใดบ้างที่อาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเรา
เราจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ แต่ทั้งนี้ ในกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ หรือกรณีที่การเปิดเผยดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุข้างต้น เราอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่บุคคลต่าง ๆ รวมถึงบุคคล ตามตัวอย่างดังต่อไปนี้
o ผู้บริหารตัวแทน รวมถึง ผู้บริหารต้นสังกัดตลอดสาย ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยตรงหรือที่เราจัดหาให้
o ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่น ๆ รวมถึงผู้ประกันภัยต่อ
o สมาคมหรือสมาพันธ์ในภาคธุรกิจประกันภัย
o บุคคลใดก็ตามที่ได้รับอนุญาตให้กระทำการในฐานะบุคลากรและคู่ค้าของเรา
o บุคคลใดก็ตามที่ได้รับการว่าจ้าง หรือ เข้าทำสัญญาเพื่อปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรและคู่ค้าของเรา
o บุคลากรและคู่ค้าของเราไม่ว่ารายใด
o แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอก ตามรายละเอียดข้างต้น
o หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
หมายรวมถึง หน่วยงานรัฐ หรือ หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สรรพากร คณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตำรวจ ศาล เป็นต้น ตลอดทั้ง คณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือบุคคลอื่นใดในประเทศที่บริษัท หรือบริษัทในกลุ่มบริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลให้ (ก) ตามหน้าที่ตามกฎหมายและ/ หรือตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศไทย และอาจรวมถึงหน่วยงานของรัฐในประเทศที่กลุ่มบริษัทตั้งอยู่ หรือ (ข) ตามข้อตกลง หรือ นโยบายระหว่างบริษัทในกลุ่มบริษัท กับรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
o บริษัทใด ๆ ในกลุ่มบริษัทของเรา
o ผู้ให้คำปรึกษาของเรา
ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ อาทิเช่น ทนายความ แพทย์ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือที่ปรึกษา
o บุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ที่ท่านให้ความยินยอม
หมายถึง ยินยอมให้เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ ได้
o เข้าทำธุรกรรม หรือ จะเข้าทำธุรกรรมกับเรา
การโอนข้อมูล
เราอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จัดเก็บไว้ หรือประมวลผล หรือ ส่งให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ตามรายละเอียดข้างต้น ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรือให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทย ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จะถูกโอนไปยังสถานที่อื่น ๆ ตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยหากเป็นการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างกลุ่มบริษัท เราจะดำเนินการตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในกลุ่มบริษัท (Binding Corporate Rules) ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ (หากมี) เราจะใช้มาตราการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือ การติดต่อครั้งสุดท้ายกับเรา และ เราอาจจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต ทั้งนี้ เราจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น
สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
o ตรวจสอบว่าเรามีข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ เกี่ยวกับท่านหรือไม่ ตลอดจนสิทธิในการเข้าถึง หรือขอรับสำเนาของข้อมูลใด ๆ ดังกล่าว และ/หรือเข้าถึงข้อมูลว่าเรา ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
o ขอให้เราทำการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ให้ถูกต้อง
o ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้ หรือ ในกรณีที่ไม่มีหลักการพื้นฐานทางกฎหมายในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลนั้นๆ หรือ ตามที่กฎหมายกำหนด
o ขอให้จำกัดการดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางสถานการณ์
o ขอให้เราโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางสถานการณ์ให้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ในกรณีที่ข้อมูลอยู่ในรูปแบบหรือโครงสร้างที่ใช้กันโดยทั่วไป
o ขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราวในบางสถานการณ์
o ขอเพิกถอน หรือ ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขตความยินยอมของท่าน ที่ท่านได้ให้ไว้ในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
o เสนอข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามขั้นตอนที่กำหนดในพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เราจะดำเนินการตามสิทธิของท่าน เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยเราอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต
หมายเหตุ นอกจากสิทธิการขอเพิกถอน ท่านสามารถจะใช้สิทธิเหล่านั้นได้นับแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 นอกจากพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้กำหนดแตกต่างออกไป
ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ในบางกรณี เรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เช่น ประวัติสุขภาพซึ่งอาจรวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อการซื้อ หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา กล่าวคือ ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อการพิจารณารับประกันภัย ตลอดจนการให้บริการและการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เว้นแต่กฎหมายอนุญาต เราจำต้องขอความยินยอมจากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว หากท่านไม่ยินยอมให้บริการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เราอาจจะปฎิเสธ หรือ อาจจะไม่สามารถพิจารณาทำสัญญาเพื่อการซื้อ หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ การบริการใด ๆ แก่ท่านได้ เช่น อาจจะไม่สามารถพิจารณารับประกันได้ ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
เราขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยการปรับปรุงหน้าประกาศในเว็บไซต์ของเรา เราขอแนะนำให้ท่านติดตามประกาศในเว็บไซต์ของเราอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากประกาศเราในเว็บไซต์ถือว่ามีความสำคัญเหนือประกาศก่อนหน้านี้ทั้งหมด
ช่องทางการติดต่อเราเพื่อสอบถาม หรือ ขอใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ช่องทางการติดต่อเราเพื่อสอบถาม หรือ ขอใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถติดต่อเราหรือส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามช่องทางด้านล่าง
ในกรณีขอใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาใช้แบบคำร้องการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของเราที่ https://www.tokiomarine.com/th/th-life/personal/resources/service-forms.html
ทางจดหมายลงทะเบียน
ส่งถึง |
บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แผนกลูกค้าสัมพันธ์ |
ที่อยู่ |
เลขที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น 26 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 ประเทศไทย |
ทางอีเมล |
CSC@tokiomarinelife.co.th |
เท่าที่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอนุญาต เราอาจมีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้น
รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1. นายยงยุทธ ลิ้ม
2. นายสิทธิชัย อุยตระกูล
ช่องทางการติดต่อ: DPO@tokiomarinelife.co.th
ฉบับที่ 1
วันที่มีผลใช้บังคับ: 29 เมษายน 2563